วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Area of Influence พื้นที่แสดงอำนาจ จุดยืนที่ควรรู้

Area of Influence
อะไรคือ "พื้นที่แสดงอำนาจ"
       

        มันหมายถึงระยะที่ฮีโร่ของคุณสามารถควบคุม โจมตี และใช้สกิลต่างๆ บน ระยะ เขตแดน หรือพื้นที่นั้นๆ ได้ ซึ่งฮีโร่แต่ละตัวจะมีพื้นที่แสดงอำนาจนี้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของฮีโร่ตัวนั่น เช่น ฮีโร่ที่โจมตีระยะไกล (Range) โดยพื้นฐานจะมีพื้นที่แสดงอำนาจมากกว่าพวก ระยะประชิด (Melee) แต่นอกจากนี้ก็มีองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


 ฮีโร่ที่โจมตีระยะไกล จะมีพื้นที่แสดงอำนาจมากกว่าระยะประชิดเป็นพื้นฐาน 

ทำไมต้องเรียนรู้ "พื้นที่แสดงอำนาจ" 

เวลาที่เราเล่น DotA หลายคนอาจจะเคยมีปัญหาประมาณว่า...
- ไม่รู้จะนำหรือจะตามดี
- ไม่รู้จะอยู่ตรงไหนถึงปลอดภัย
- ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะช่วยเพื่อนได้ทัน

 
        ถ้าคุณเคยมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นแล้วละก็ แสดงว่าคุณยังไม่สามารถควบคุมและทำความเข้าใจกับพื้นที่แสดงอำนาจนี้ได้อย่างดีพอ ซึ่งถ้าเราเข้าใจและเรียนรู้ว่า ตำแหน่งไหน ระยะอะไร ที่เราสามารถเข้าหาหรือใช้สกิลต่างๆ ได้ หรือตัดสินใจเวลาเล่นทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลา โดยเฉพาะฮีโร่ที่มีสกิลหยุดทั้งหลาย การจะเล่นพวกมันให้ดี จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องนี้เอาไว้เป็นพื้นฐานเลยด้วย


การใช้พื้นที่แสดงอำนาจ 

ยกตัวอย่าง Skeleton King กับ Nevermore
     Skeleton King เป็นฮีโร่ที่โจมตีระยะประชิดแต่มีสกิลที่สามารถโจมตีระยะไกลได้ นั้นก็คือ Hellfire Blast ซึ่งทำให้เป้าหมายติด Stun ได้นาน 2 วินาที ดังนั้นพื้นที่แสดงอำนาจไกลสุดของ Skeleton King จึงอยู่ที่ประมาณ 600 Range จากระยะโจมตีของ Hellfire Blast ซึ่งผู้เล่นบางคนเชื่อเอาระยะของสกิลนี้เป็นหลักในการเล่น และใช้มันโจมตีในระยะไกลบ่อยๆ แต่นั้นไม่ใช่พื้นที่แสดงอำนาจที่แท้จริงของ Skeleton King เพราะถึงแม้จะโจมตีในระยะ 600 Range ได้ แต่ความเสียหายที่ Skeleton King ทำได้จริงคือการโจมตีธรรมดาที่ระยะเพียงแค่ 128 Range เท่านั้นเอง


     
        Nevermore เป็นฮีโร่โจมตีระยะไกล 500 Range แต่ตัวมันเองมีสกิลที่สามารถโจมตีได้ไกลมากอย่าง Shadowraze ที่ระยะไกลสุดของมันโจมตีได้ถึง 700 Range จะเห็นพื้นที่แสดงอำนาจของ Nevermore ทั้งเรื่องสกิลและการโจมตีธรรมดาถือว่าใกล้เคียงกันมาก และหมายความว่าในระยะ 500 Range มันสามารถระดมโจมตีศัตรูได้อย่างเต็มที่



       
        จากที่กล่าวมมาจะเห็นว่าถึงแม้ Skeleton King จะโจมตีได้ 600 Range แต่พื้นที่แสดงอำนาจที่แท้จริงของมันเพียงแต่ 128 Range เท่านั้น เมื่อเทียบกับ Nevermore ที่โจมตีได้เต็มที่ในระยะ 500 Range จึงถือว่า Nevermore ได้เปรียบมาก และข้อเสียเปรียบอีกอย่างของ Skeleton King ก็คือหลังจากโจมตีด้วย Hellfire Blast ไปแล้วต้องใช้เวลานิดเพื่อเดินเข้าหาเป้าหมายแล้วโจมตี ดังนั้นถ้าก่อนใช้สกิลผู้เล่นไม่พยายามเข้าประชิดให้ได้มากที่สุดก่อนแล้วรีบ Stun ไป 2 วินาทีของ Hellfire Blast ทำได้แค่ย่นระยะห่างของเป้าหมายเท่านั้น

        อีกมุมมองหนึ่งถ้าหาก Skeleton King และ Nevermore อยู่ฝ่ายเดียวกันแล้ว พวกมันจะมีระยะอันตรายที่สามารถโจมตีศัตรูได้ทันที 600 Range เพราะเป็นระยะที่ Hellfire Blast สามารถโจมตีได้ทันที และ Nevermore ขยับตัวนิดเดียวก็เข้าโจมตีเป้าหมายได้เต็มที่แล้ว สิ่งที่ผมจะบอกก็คือ นี้เป็นพื้นฐานของการคิดคอมโบสกิลครับ คอมโบสกิลที่ดีมันไม่ได้มาจากการระดมยัดๆ สกิลใส่เป้าหมายจนหมด แต่มันคือการเรียนรู้ระยะที่ฮีโร่ทั้งสองสามารถสนับสนุนและเสริมกันได้อย่างเต็มที่แบบนี้มากกว่า และถ้าคุณทำได้ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ตัวไหน คุณก็สามารถเอามันมาคอมโบกันได้ทั้งนั้น และยังนำเทคนิคนี้ไปใช้ในการเล่นจริงได้ยกตัวอย่างเช่น
        Nevermore กำลังจะแอบเข้ามาโจมตีฮีโร่ที่อยู่ในเลนเดียวกับคุณ คุณควรจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถสนับสนุน Nevermore คุณได้ทันทีที่เขาแสดงตัวเข้าโจมตี ถ้าคุณเป็น Skeleton King คุณก็แค่พยายามเข้าไปใกล้กับศัตรูในระยะประมาณ 500-600 Range และรักษาระยะนั้นเองไว้ ก็หมายความว่าคุณพร้อมที่จะโจมตีเป้าหมายได้ตลอดเวลา และไม่จำเป็นต้องคอยมองดู Nevermore ด้วยซ้ำว่าจะเข้าโจมตีตอนไหน




 เริ่มต้นจาก Skeleton King พยายามรักษาระยะห่างที่สามารถแสดงอำนาจได้ทันทีไ




 ถ้าทำได้ Nevermore จะเข้าโจมตีจังหวะไหน ก็สามารถสนับสนุนได้ทันทีเสมอ


       ในทางกลับกันถ้าคุณเป็น Nevermore และกำลังรอให้เพื่อนในทีมแอบเข้ามาโจมตีเปิดศัตรู คุณอาจจะทำเหมือนกับที Skeleton King ทำก็ได้ แนะผมแนะนำให้เปลี่ยนจากรักษาระยะและโจมตี มาเป็นเข้าหาให้ได้มากที่สุดก่อนดีกว่า เพราะพื้นที่แสดงอำนาจของ Nevermore ไกลถึง 500 Range สมมุติว่าคุณเข้าไปประชิดเป้าหมายได้ในระยะ 200 Range นั่นหมายความว่าศัตรูต้องใช้อีกครู่หนึ่งเพื่อหลบออกมาอีก 300 Range และในระหว่างนั้นคุณสามารถโจมตีศัตรูได้เต็มที่โดยไม่เสียจังหวะวิ่งตาม



การเพิ่มระยะ "พื้นที่แสดงอำนาจ"
 
        หลายคนเห็นแบบนี้แล้วอาจจะคิดว่าฮีโร่ประชิดยังไงก็เสียเปรียบพวกโจมตีระยะไกล แต่มันก็มีวิธีที่จะทำให้คุณสามารถเพิ่มพื้นที่แสดงอำนาจของตัวเองได้อยู่ นั้นก็คือการเลือกออกไอเทมอย่าง Kelen's Dagger เพื่อเอาสกิล Blink ซึ่งสามารถ Blink ไปได้ไกลถึง 1,200 Range นั้นหมายความว่าคุณสามารถเพิ่มพื้นที่แสดงอำนาจของฮีโร่ขึ้นไปได้อีก 1,200 Range สมมุติว่าถ้า Skeleton King ใช้ ในระยะ 1,200 มันสามารถเข้าประชิดและโจมตีศัตรูได้ทันที โดยไม่ต้องไปกังวลเรื่อง Hellfire Blast แต่ถ้า Nevermore ใช้งานก็หมายความว่ามันจะมีระยะเข้าโจมตีเป้าหมายได้ไกลที่สุดถึง 1,700 Range เลยทีเดียว และนี้คืออีกหนึ่งเหตุผล ว่าทำไมผู้เล่นถึงชอบออก Kelen's Dagger





 Centaur มี Blink ก็ไม่ต่างกับเสือติดปีก



"พื้นที่แสดงอำนาจ" ในการเล่นแบบทีม
 
        ฮีโร่บางตัวที่มีสกิล Blink หรือเจ้า Faerie Dragon จัดเป็นพวกที่มีพื้นที่แสดงอำนาจไกลมากทำให้ไม่แปลกที่มันจะได้รับความนิยมจากผู้เล่นเสมอ หรืออย่าง Tidehunter ซึ่งมีสกิล Revage ทำให้มันสามารถสร้างพื้นที่แสดงอำนาจให้กับทีมได้ทันที่มากกว่า 1,000 Range เลยกลายเป็นตัวเปิดที่น่าจับตามอง
        แต่ในทางกลับถ้าศัตรูเก่งๆ ก็คงเข้าในเรื่องนี้ดี และคงไม่ล้ำเข้ามาในพื้นที่แสดงอำนาจของคุณง่ายๆ ทำให้ฮีโร่ที่มีพื้นที่แสดงอำนาจไม่มากอย่าง Centaur หรือ Skeleton King ต้องพยายามอยู่หน้าของกลุ่มเวลาเล่นทีมเสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตัวศัตรูให้ได้มากขึ้น แต่ถ้าเป็น Faerie Dragon มันแทบจะเลือกอยู่ตรงไหนของทีมก็ได้เลยทีเดียว





 พวกตัวเปิดควรจะอยู่หน้ากลุ่ม ตามด้วยฮีโร่ที่พื้นที่แสดงอำนาจสูง



ตามหลักจิตวิทยา DotA

          ตามหลักจิตวิทยา DotA ความไกลหรือความห่างจากบริเวณที่คิดว่าอันตรายยิ่งมากเท่าไหร่ จะทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ลดความระมัดระวังตัวเวลาเล่นลง ดังนั้นยิ่งมีฮีโร่พื้นที่แสดงอำนาจไกลมาใช้งานก็ยิ่งมีโอกาสเข้าหา ฆ่า หรือเปิดจังหวะให้ทีมได้มากเท่านั้น อย่างเช่นถ้า POTM ยิงลูกศรพันลี้ จึงมักได้รับความนิยมจากผู้เล่นบ่อยๆ เพราะถือเป็นสกิลหยุดที่มีระยะไกลมาก เป็นต้น


ฮีโร่ที่มีพื้นที่แสดงอำนาจเต็มเขต
 
      นอกจากระยะที่มีผลต่อพื้นที่แสดงอำนาจแล้ว เรื่องของความกว้างสกิลก็มีผลต่อพื้นที่แสดงอำนาจเหมือนกัน เพราะสกิลที่โจมตีเป็น AoE ก็ย่อมมีระยะไกลและกว้างมากพอที่คลุมพื้นที่ๆ ต้องการได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น Pit Lord, Queen of Pain, Zeus, Silencer ถ้าไม่มองไปที่เรื่องของความรุนแรง แต่มองไปที่เรื่องการครอบคลุมพื้นที่แล้ว ฮีโร่พวกนี้เป็นมี "พื้นที่แสดงอำนาจเต็มเขต"


          สำหรับเรื่องพื้นที่แสดงอำนาจนี้ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่ว่า DotA จะออกมากี่เวอร์ชั่น มันก็สามารถนำมาใช้เล่นได้เสมอ ดังนั้นขอให้มือใหม่ทุกท่านทำความเข้าใจและฝึกควบคุมพื้นที่แสดงอำนาจของคุณให้ดี เพราะมันคือพื้นฐานของการเล่นเป็นทีมอย่างแท้จริง

Credit : vIgOzZ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพลง DotA - BassHunter