วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อัพเดท 1.24d แล้ว แต่เข้าเกมแล้วเด้ง

มีอยู่ 2 สาเหตุ
1 ต้อง Registry เกม Warcraft III ให้ถูกต้องโหลดที่นี้ http://www.thaicybergames.com/webboard/index.php?topic=39.0
   WC3Setup.exe - Run แล้วเลือก Frozen Throne.exe เพื่อทำการ Set Registry ของเกม Warcraft III ให้ถูกต้องนะครับ

2. อัพเดทแล้วแต่ไม่ได้ปิด TCGNETWORK อันนี้ต้องอัพเดทใหม่โดยปิดโปรแกรม TCGNETWORK ก่อนด้วย
    แต่ก็จะเกิดปัญหาอีกคือเราอัพเดทไปแล้วพออัพเดทใหม่มันจะขึ้นว่าเราอัพเดทไปแล้วไม่อัพเดทให้อีกทำไงละเนี้ย
    อย่าเพิ่งใจร้อนเรามีวิธีแก้

  2.1  หาไฟล์war3(อยู่ในfolderที่ลงwarcraft3 ไฟล์จะไม่มีรูปไอคอน)แล้วเอาไปไว้ที่อื่นก่อนcutเอามาเลยไม่ด้องกอปปี้
  2.2  หาไฟล์war3.orgแล้วกอปปี้เอาไปไว้ที่อื่นก่อน(ห้ามไว้ที่เดียวกับ war3 ที่ย้ายมาตอนแรก) เแล้วรีเนมไฟล์ที่กอปปี้ออกมาจากไฟล์ war3.org เป็น war3.exe
  2.3  นำไฟล์war3.exeที่ีรีเนมเแล้วนำไปไว้ที่เดิม(folderที่ลงwarcraft3)
  2.4  อัพเดทอีกครั้งนึงทีนี้จะอัพเดทได้ปรกติ
  2.5 เอาไฟล์war3อันแรก ไปลงทับไว้ที่เก่า(folderที่ลงwarcraft3)
  2.6 อย่าลืมปิดโปรเกมTCGNETWORK(หน้าต่างแชต)ก่อนอัพเดทถ้าลืมอีกให้กลับไปทำใหม่ตั่งแต่ข้อ2.1

ลองทำข้อ1ก่อนถ้าไม่ได้ให้ทำข้อ2

TCG อัพเดทใหม่ 1.24d เท่านั้น

     เอ๊ะ..ทำไมเข้าเกมไม่ได้...เสียงของใครหลายๆคนที่เล่น DotA เซิฟเวอร์ TCG
เนื่องจากเซิฟเวอร์ TCG ได้อัพเดท Path ใหม่ และทำให้ผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้ Warcraft 3
เวอร์ชั่น 1.24d ไม่สามารถเข้าเกมผ่าน TCG ได้
     เหตุที่ทาง TCG ได้ทำแบบนี้ ก็เพราะเพื่อที่จะป้องกัน HackMap ที่มีมากมาย
ในเวอร์ชั่น 1.24b แต่ถึงจะใช้เป็น 1.24d แล้ว ก็ยังมี HackMap ที่ใช้ได้อยู่


เพื่ออัพเดทเวอร์ชั่นของเกมให้สามารถเล่นผ่าน TCG ได้


วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ภาษา DotA รู้เอาไว้ จะได้ไม่งง

     คงมีหลายๆท่านที่ยังไม่ค่อยเข้าใจภาษา DotA ซึ่งอาจทำให้เราพูดคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องเท่าที่ควร ครั้งนี้ผมเลยนำมาเสนอสำหรับคนไม่ค่อยเข้าใจ จะได้สนทนากับผู้เล่นอื่นๆได้เข้าใจกัน

คำอธิบายในเกม

Damage Reduction : การหักลบ Damage
Creep : ตัวละครที่มันจะเกิดเรื่อยๆ โดยถ้าเราฆ่ามันก็จะได้เงิน และ EXP
Range : การโจมตีระยะไกล
Melee : การโจมตีระยะใกล้
Burn Mana : การลด Mana
Mana : MP, พลังเวทย์ หรือพลังในการใช้สกิลนั่นเอง
HP : เลือดของตัวละคร
AOE : บริเวณที่จะเกิดผลของเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เช่น 300 AOE

คำทั่วไปควรรู้

Damage : ฮีโร่ที่สามารถสร้างความเสียหายได้มาก
Tank : ฮีโร่พันธุ์อึดเอาไว้ลุยเป็นตัวแรก
Support : ฮีโร่ที่มีหน้าที่สนับสนุนเพื่อนร่วมทีม
Last Shot : การโจมตีครั้งสุดท้ายเพื่อให้ Creep หรือฮีโร่ฝั่งตรงข้ามตาย
Deny : การโจมตีครั้งสุดท้ายเพื่อให้ Creep หรือฮีโร่ฝั่งเราตาย แต่เราจะไม่ได้เงิน
Lag : เน็ตมีปัญหา ทำให้ตัวละครกระตุกๆ ถ้าเป็นหนักก็จะหลุดจากห้องเลย
DOT : อาการที่เลือดลดลงเรื่อยๆ ด้วยผลของสกิลในระยะเวลาหนึ่ง
Stun : เกิดจากสกิลของฮีโร่ฝั่งตรงข้ามทำให้ขยับตัวไม่ได้และโจมตีไม่ได้สักพัก
Gem : ไอเทมสำหรับดูฮีโร่ที่มีสกิลทำให้หายตัวได้
Ward : ไอเทมที่ทำให้มองเห็นพื้นที่มุมมืดเฉพาะจุด
Farm : ลักษณะของฮีโร่ที่เข้าไปสู้กับ Creep เพื่อเก็บเงินเป็นหลัก
Barrack : สิ่งปลูกสร้างที่เกี่ยวพันธ์กับความแข็งแกร่งของ Creep
(ถ้าเราทำลาย Barrack ของฝั่งตรงข้ามได้ Creep ฝั่งเราจะเก่งขึ้น)
Tower : Pom (ป้อม) สิ่งปลูกสร้างที่มีความสามารถโจมตีฮีโร่กับ Creep
Base : สิ่งปลูกสร้างที่ฮีโร่ต้องเข้าไปทำลายเพื่อเอาชัยชนะ
Pool : การซื้อไอเทมให้กับฮีโร่คนอื่นไม่ว่าจะนอกทีมหรือในทีม
Item : ของในเกม
Roshan : บอสประจำแผนที่

ภาษาสื่อสารในเกม

GG : Good Game หมายถึงเกมที่ดี เป็นการพูดให้เกียรติทั้งสองฝ่ายตอนจบเกม
WW : คำย่อของสกิล Wind Walk ซึ่งทำให้หายตัวได้
Rune : ไอเทมพิเศษอยู่ในแม่น้ำ ช่วยเพิ่มความสามารถให้ฮีโร่ช่วงเวลาหนึ่ง
Invi : Rune สีม่วง ทำให้เราหายตัวได้ 40 วินาที ชื่อ Invisibility
Reg : Rune สีเขียว ทำให้ HP & MP เต็ม ชื่อ Regeneration
DB : Rune สีฟ้า ทำให้พลังโจมตีเป็น 2 เท่า ชื่อ Double Damage
Sry : ย่อมากจาก Sorry เสียใจ...
NP : No Problem ไม่มีปัญหา
Leaver : ใช้เรียกผู้เล่นที่กดออกจากเกมในขณะที่เล่นอยู่
B : Back ถอยๆ หนีๆ
L : เลนซ้าย
R : เลนขวา
C : เลนกลาง
+ : ส่งสัญญาณบอกให้เพื่อนเข้าโจมตี
Dis : การหายไปของฮีโร่ เช่น Dis L การหายไปของฮีโร่ในเลนซ้าย
RW : เป็นคำย่อของ Rawung ระวัง

คำโดนใจ

DotA : เรียก “ดอทเอ” หรือ “โดต้า” ก็แล้วแต่จะเรียก
Pod : “ป็อด” อาการของผู้เล่นที่ไม่เข้าไปช่วยเพื่อนสู้เกิดจากหลายเหตุผลแล้วแต่สถานการณ์ มักจะพบได้ที่ห้องผู้เล่นทั่วไป
Noob : คำที่ใช้เรียกผู้เล่นที่ฝีมืออ่อนหัด
KAK : “กาก” อาการต่อว่าผู้เล่นที่มีฝีมืออ่อนกว่าหรือเหยียดหยาม
Seng : “เซง” อาการหงุดหงิดของตัวเราที่เห็นผู้เล่นคนอื่นทำอะไรไม่ถูกใจ อาการนี้พบได้บ่อยหากทีมแพ้หรือเสียเปรียบ
Tui : “ตุ๋ย” การดักฆ่าหรือการรุมแบบไม่ให้ฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัว
Su pa ? : สู้เปล่า ? คำถามที่เกิดขึ้นเมื่อมีผู้เล่นของอีกฝ่ายกดออกหรือหลุด

Credit : JKRipper

Area of Influence พื้นที่แสดงอำนาจ จุดยืนที่ควรรู้

Area of Influence
อะไรคือ "พื้นที่แสดงอำนาจ"
       

        มันหมายถึงระยะที่ฮีโร่ของคุณสามารถควบคุม โจมตี และใช้สกิลต่างๆ บน ระยะ เขตแดน หรือพื้นที่นั้นๆ ได้ ซึ่งฮีโร่แต่ละตัวจะมีพื้นที่แสดงอำนาจนี้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของฮีโร่ตัวนั่น เช่น ฮีโร่ที่โจมตีระยะไกล (Range) โดยพื้นฐานจะมีพื้นที่แสดงอำนาจมากกว่าพวก ระยะประชิด (Melee) แต่นอกจากนี้ก็มีองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


 ฮีโร่ที่โจมตีระยะไกล จะมีพื้นที่แสดงอำนาจมากกว่าระยะประชิดเป็นพื้นฐาน 

ทำไมต้องเรียนรู้ "พื้นที่แสดงอำนาจ" 

เวลาที่เราเล่น DotA หลายคนอาจจะเคยมีปัญหาประมาณว่า...
- ไม่รู้จะนำหรือจะตามดี
- ไม่รู้จะอยู่ตรงไหนถึงปลอดภัย
- ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะช่วยเพื่อนได้ทัน

 
        ถ้าคุณเคยมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นแล้วละก็ แสดงว่าคุณยังไม่สามารถควบคุมและทำความเข้าใจกับพื้นที่แสดงอำนาจนี้ได้อย่างดีพอ ซึ่งถ้าเราเข้าใจและเรียนรู้ว่า ตำแหน่งไหน ระยะอะไร ที่เราสามารถเข้าหาหรือใช้สกิลต่างๆ ได้ หรือตัดสินใจเวลาเล่นทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลา โดยเฉพาะฮีโร่ที่มีสกิลหยุดทั้งหลาย การจะเล่นพวกมันให้ดี จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องนี้เอาไว้เป็นพื้นฐานเลยด้วย


การใช้พื้นที่แสดงอำนาจ 

ยกตัวอย่าง Skeleton King กับ Nevermore
     Skeleton King เป็นฮีโร่ที่โจมตีระยะประชิดแต่มีสกิลที่สามารถโจมตีระยะไกลได้ นั้นก็คือ Hellfire Blast ซึ่งทำให้เป้าหมายติด Stun ได้นาน 2 วินาที ดังนั้นพื้นที่แสดงอำนาจไกลสุดของ Skeleton King จึงอยู่ที่ประมาณ 600 Range จากระยะโจมตีของ Hellfire Blast ซึ่งผู้เล่นบางคนเชื่อเอาระยะของสกิลนี้เป็นหลักในการเล่น และใช้มันโจมตีในระยะไกลบ่อยๆ แต่นั้นไม่ใช่พื้นที่แสดงอำนาจที่แท้จริงของ Skeleton King เพราะถึงแม้จะโจมตีในระยะ 600 Range ได้ แต่ความเสียหายที่ Skeleton King ทำได้จริงคือการโจมตีธรรมดาที่ระยะเพียงแค่ 128 Range เท่านั้นเอง


     
        Nevermore เป็นฮีโร่โจมตีระยะไกล 500 Range แต่ตัวมันเองมีสกิลที่สามารถโจมตีได้ไกลมากอย่าง Shadowraze ที่ระยะไกลสุดของมันโจมตีได้ถึง 700 Range จะเห็นพื้นที่แสดงอำนาจของ Nevermore ทั้งเรื่องสกิลและการโจมตีธรรมดาถือว่าใกล้เคียงกันมาก และหมายความว่าในระยะ 500 Range มันสามารถระดมโจมตีศัตรูได้อย่างเต็มที่



       
        จากที่กล่าวมมาจะเห็นว่าถึงแม้ Skeleton King จะโจมตีได้ 600 Range แต่พื้นที่แสดงอำนาจที่แท้จริงของมันเพียงแต่ 128 Range เท่านั้น เมื่อเทียบกับ Nevermore ที่โจมตีได้เต็มที่ในระยะ 500 Range จึงถือว่า Nevermore ได้เปรียบมาก และข้อเสียเปรียบอีกอย่างของ Skeleton King ก็คือหลังจากโจมตีด้วย Hellfire Blast ไปแล้วต้องใช้เวลานิดเพื่อเดินเข้าหาเป้าหมายแล้วโจมตี ดังนั้นถ้าก่อนใช้สกิลผู้เล่นไม่พยายามเข้าประชิดให้ได้มากที่สุดก่อนแล้วรีบ Stun ไป 2 วินาทีของ Hellfire Blast ทำได้แค่ย่นระยะห่างของเป้าหมายเท่านั้น

        อีกมุมมองหนึ่งถ้าหาก Skeleton King และ Nevermore อยู่ฝ่ายเดียวกันแล้ว พวกมันจะมีระยะอันตรายที่สามารถโจมตีศัตรูได้ทันที 600 Range เพราะเป็นระยะที่ Hellfire Blast สามารถโจมตีได้ทันที และ Nevermore ขยับตัวนิดเดียวก็เข้าโจมตีเป้าหมายได้เต็มที่แล้ว สิ่งที่ผมจะบอกก็คือ นี้เป็นพื้นฐานของการคิดคอมโบสกิลครับ คอมโบสกิลที่ดีมันไม่ได้มาจากการระดมยัดๆ สกิลใส่เป้าหมายจนหมด แต่มันคือการเรียนรู้ระยะที่ฮีโร่ทั้งสองสามารถสนับสนุนและเสริมกันได้อย่างเต็มที่แบบนี้มากกว่า และถ้าคุณทำได้ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ตัวไหน คุณก็สามารถเอามันมาคอมโบกันได้ทั้งนั้น และยังนำเทคนิคนี้ไปใช้ในการเล่นจริงได้ยกตัวอย่างเช่น
        Nevermore กำลังจะแอบเข้ามาโจมตีฮีโร่ที่อยู่ในเลนเดียวกับคุณ คุณควรจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถสนับสนุน Nevermore คุณได้ทันทีที่เขาแสดงตัวเข้าโจมตี ถ้าคุณเป็น Skeleton King คุณก็แค่พยายามเข้าไปใกล้กับศัตรูในระยะประมาณ 500-600 Range และรักษาระยะนั้นเองไว้ ก็หมายความว่าคุณพร้อมที่จะโจมตีเป้าหมายได้ตลอดเวลา และไม่จำเป็นต้องคอยมองดู Nevermore ด้วยซ้ำว่าจะเข้าโจมตีตอนไหน




 เริ่มต้นจาก Skeleton King พยายามรักษาระยะห่างที่สามารถแสดงอำนาจได้ทันทีไ




 ถ้าทำได้ Nevermore จะเข้าโจมตีจังหวะไหน ก็สามารถสนับสนุนได้ทันทีเสมอ


       ในทางกลับกันถ้าคุณเป็น Nevermore และกำลังรอให้เพื่อนในทีมแอบเข้ามาโจมตีเปิดศัตรู คุณอาจจะทำเหมือนกับที Skeleton King ทำก็ได้ แนะผมแนะนำให้เปลี่ยนจากรักษาระยะและโจมตี มาเป็นเข้าหาให้ได้มากที่สุดก่อนดีกว่า เพราะพื้นที่แสดงอำนาจของ Nevermore ไกลถึง 500 Range สมมุติว่าคุณเข้าไปประชิดเป้าหมายได้ในระยะ 200 Range นั่นหมายความว่าศัตรูต้องใช้อีกครู่หนึ่งเพื่อหลบออกมาอีก 300 Range และในระหว่างนั้นคุณสามารถโจมตีศัตรูได้เต็มที่โดยไม่เสียจังหวะวิ่งตาม



การเพิ่มระยะ "พื้นที่แสดงอำนาจ"
 
        หลายคนเห็นแบบนี้แล้วอาจจะคิดว่าฮีโร่ประชิดยังไงก็เสียเปรียบพวกโจมตีระยะไกล แต่มันก็มีวิธีที่จะทำให้คุณสามารถเพิ่มพื้นที่แสดงอำนาจของตัวเองได้อยู่ นั้นก็คือการเลือกออกไอเทมอย่าง Kelen's Dagger เพื่อเอาสกิล Blink ซึ่งสามารถ Blink ไปได้ไกลถึง 1,200 Range นั้นหมายความว่าคุณสามารถเพิ่มพื้นที่แสดงอำนาจของฮีโร่ขึ้นไปได้อีก 1,200 Range สมมุติว่าถ้า Skeleton King ใช้ ในระยะ 1,200 มันสามารถเข้าประชิดและโจมตีศัตรูได้ทันที โดยไม่ต้องไปกังวลเรื่อง Hellfire Blast แต่ถ้า Nevermore ใช้งานก็หมายความว่ามันจะมีระยะเข้าโจมตีเป้าหมายได้ไกลที่สุดถึง 1,700 Range เลยทีเดียว และนี้คืออีกหนึ่งเหตุผล ว่าทำไมผู้เล่นถึงชอบออก Kelen's Dagger





 Centaur มี Blink ก็ไม่ต่างกับเสือติดปีก



"พื้นที่แสดงอำนาจ" ในการเล่นแบบทีม
 
        ฮีโร่บางตัวที่มีสกิล Blink หรือเจ้า Faerie Dragon จัดเป็นพวกที่มีพื้นที่แสดงอำนาจไกลมากทำให้ไม่แปลกที่มันจะได้รับความนิยมจากผู้เล่นเสมอ หรืออย่าง Tidehunter ซึ่งมีสกิล Revage ทำให้มันสามารถสร้างพื้นที่แสดงอำนาจให้กับทีมได้ทันที่มากกว่า 1,000 Range เลยกลายเป็นตัวเปิดที่น่าจับตามอง
        แต่ในทางกลับถ้าศัตรูเก่งๆ ก็คงเข้าในเรื่องนี้ดี และคงไม่ล้ำเข้ามาในพื้นที่แสดงอำนาจของคุณง่ายๆ ทำให้ฮีโร่ที่มีพื้นที่แสดงอำนาจไม่มากอย่าง Centaur หรือ Skeleton King ต้องพยายามอยู่หน้าของกลุ่มเวลาเล่นทีมเสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตัวศัตรูให้ได้มากขึ้น แต่ถ้าเป็น Faerie Dragon มันแทบจะเลือกอยู่ตรงไหนของทีมก็ได้เลยทีเดียว





 พวกตัวเปิดควรจะอยู่หน้ากลุ่ม ตามด้วยฮีโร่ที่พื้นที่แสดงอำนาจสูง



ตามหลักจิตวิทยา DotA

          ตามหลักจิตวิทยา DotA ความไกลหรือความห่างจากบริเวณที่คิดว่าอันตรายยิ่งมากเท่าไหร่ จะทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ลดความระมัดระวังตัวเวลาเล่นลง ดังนั้นยิ่งมีฮีโร่พื้นที่แสดงอำนาจไกลมาใช้งานก็ยิ่งมีโอกาสเข้าหา ฆ่า หรือเปิดจังหวะให้ทีมได้มากเท่านั้น อย่างเช่นถ้า POTM ยิงลูกศรพันลี้ จึงมักได้รับความนิยมจากผู้เล่นบ่อยๆ เพราะถือเป็นสกิลหยุดที่มีระยะไกลมาก เป็นต้น


ฮีโร่ที่มีพื้นที่แสดงอำนาจเต็มเขต
 
      นอกจากระยะที่มีผลต่อพื้นที่แสดงอำนาจแล้ว เรื่องของความกว้างสกิลก็มีผลต่อพื้นที่แสดงอำนาจเหมือนกัน เพราะสกิลที่โจมตีเป็น AoE ก็ย่อมมีระยะไกลและกว้างมากพอที่คลุมพื้นที่ๆ ต้องการได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น Pit Lord, Queen of Pain, Zeus, Silencer ถ้าไม่มองไปที่เรื่องของความรุนแรง แต่มองไปที่เรื่องการครอบคลุมพื้นที่แล้ว ฮีโร่พวกนี้เป็นมี "พื้นที่แสดงอำนาจเต็มเขต"


          สำหรับเรื่องพื้นที่แสดงอำนาจนี้ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่ว่า DotA จะออกมากี่เวอร์ชั่น มันก็สามารถนำมาใช้เล่นได้เสมอ ดังนั้นขอให้มือใหม่ทุกท่านทำความเข้าใจและฝึกควบคุมพื้นที่แสดงอำนาจของคุณให้ดี เพราะมันคือพื้นฐานของการเล่นเป็นทีมอย่างแท้จริง

Credit : vIgOzZ

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Mind Game ศาสตร์แห่งสงครามจิตวิทยา

สงครามจิตวิทยาใน DotA ก็คือ การหลอกล่อชักนำให้อีกฝ่ายหลงเข้ามาในการดำเนินเกมที่เราวางเอาไว้ โดยอ่านการเคลื่อนไหวล่วงหน้าแล้วดักทาง หรือทำลายรูปแบบพื้นฐานในการเล่นของฝ่ายตรงข้ามโดยการหลอกล่อด้วยการเคลื่อน ไหว ฟังดูเผินๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ ลองลงลึกถึงรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ

      การเล่นสงครามจิตวิทยาเบื้องต้น


      1. Trick Move



เจอแบบนี้ แค่จะเก็บเงินก็ลำบากแล้ว

      Trick Move คือการใช้การเคลื่อนไหวหลอกล่อกดดันฝ่ายตรงข้าม ทำให้อีกฝ่ายพะว้าพะวงสับสน และเล่นลำบากขึ้น Hero ที่เหมาะกับเทคนิคนี้ก็คือพวกที่มีความสามารถในการสร้างความเสียหายในระยะ ใกล้สูง เช่น Yunero, Axe, Centaur, Goblin Techies หรือ Butcher เป็นต้น หากมี Hero เหล่านี้วิ่งเข้าหา โดยปกติก็จะต้องสันนิษฐานอยู่แล้วว่ากำลังจะเข้ามาโจมตีด้วยสกิล เราจะใช้จุดนี้ป่วนประสาทฝ่ายตรงข้าม โดยการเคลื่อนที่เข้าหาเหมือนจะโจมตีเสมอ กดดันให้อีกฝ่ายต้องถอยห่างออกจากแนวรบ หรือไม่สามารถตั้งสมาธิกับการ Deny และ Last Shot ได้ ถ้าเราวิ่งหลอกหลายๆ ครั้ง อีกฝ่ายก็จะเริ่มสับสน และเริ่มไม่เชื่อว่าเป็นการโจมตีจริง ทำให้ตำแหน่ง Hero ของอีกฝ่ายมีความรัดกุมน้อยลง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เราสามารถโจมตีจริงๆ ได้สำเร็จ

      2. Predict Move

      Predict Move คือการอ่านการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายล่วงหน้า แล้วเคลื่อนไหวดักหน้าฝ่ายตรงข้ามหนึ่งก้าวนั่นเอง ตัวอย่างเช่นเราเล่น Melee Hero ซึ่งกำลังถูกอีกฝ่ายโจมตีตอด HP อยู่เรื่อยๆ เราก็สามารถดูการเคลื่อนไหว และจับจังหวะของฝ่ายตรงข้ามได้ ว่าคนเล่นคนนี้จะมีจังหวะในการโจมตีตอดแบบนี้ๆ ให้ทิ้งระยะออกมาสักหน่อย เมื่อใกล้ถึงจังหวะที่อีกฝ่ายจะโจมตีตอด ( หรืออาจแกล้งเคลื่อนเข้าใกล้เองแล้วรีบถอยออกมาเพื่อล่อให้อีกฝ่ายเห็น จังหวะในการตอดก็ได้) ให้รีบถอยออกมา อีกฝ่ายที่ใส่คำสั่งโจมตีแล้วก็จะเดินล้ำเข้ามาลึกกว่าปกติ ในจังหวะนั้นก็รีบวิ่งสวนขึ้นไป จะทำให้เราเข้าประชิดฝ่ายตรงข้ามได้ แล้วก็จะเป็นช่วงเวลาเอาคืน ซึ่งถ้าทำสำเร็จสักครั้ง อีกฝ่ายก็จะเริ่มเซฟตัวเองมากขึ้น นั่นหมายถึงการกดดันที่น้อยลงนั่นเอง Predict Move นั้นยังหมายรวมไปถึงการคาดคะแนการใช้สกิลของอีกฝ่ายเพื่อหาจุดปลอดภัยด้วย เช่นหากเราถูกไล่ตามโดย Hero ที่มีสกิลยิงลงพื้น ถ้าหนีเป็นเส้นตรงก็จะง่ายต่อฝ่ายตรงข้ามที่จะยิงสกิลดัก ให้กะจังหวะที่อีกฝ่ายจะปล่อยสกิลให้ดีๆ แล้วเปลี่ยนทิศทางก่อนหน้านั้นแบบกะทันหัน จะเพิ่มโอกาสในการหลบหลีก Nuke และเซฟชีวิตตัวเองได้มากทีเดียว

      3. Bait on Hero



แอบยัดสกิลหลังจาก Omni Knight ใช้ฮีลไปแล้ว บวกกับการยิงของป้อม ทำให้สถานการณ์เริ่มพลิก

      อัน นี้จะเป็นการกระทำที่เสี่ยงสักหน่อย แต่ผลตอบแทนนั้นคุ้มค่ามากเช่นกัน การ Bait นั้นคือการใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง สิ่งที่ต้องจำไว้อย่างนึงคือ ต้องมั่นใจว่า Hero ของเราสามารถเอาตัวรอดจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้นานพอที่จะซื้อเวลาให้ กับเพื่อนร่วมทีม หรือตัวเราเองจะสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ หากล่อหลอกให้อีกฝ่ายเสียพลังได้มากพอ จุดสำคัญคือการทำให้อีกฝ่ายคิดว่าสามารถฆ่าเราได้ เมื่อเราแกล้งเคลื่อนไหวแบบแย่ๆ จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามคิดว่าเราพลาด เช่นแกล้งยืนสู้ให้ HP ลดลงอีกนิด แล้วถอยหนี ฝ่ายตรงข้ามที่มั่นใจว่าตัวเองได้เปรียบ และมีโอกาสฆ่าได้ก็จะตามมาแน่นอน แม้แต่เราจะหลบเข้าหลังป้อมก็ตาม ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญ ที่เราจะให้ป้อมและครีป เป็นคนทำดาเมจในระหว่างที่เราหนีวน อาจหลบเข้าพุ่มไม้ หรือใช้ไอเทมช่วย เช่น Bottle ในการเติมเลือด ทำให้สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามคำนวนเอาไว้นั้นคลาดเคลื่อนไป เมื่อสถานการณ์พลิกกลับเราก็จะอาศัยจุดพลิกผันนี้จากฝ่ายที่ถูกฆ่า เป็นฝ่ายฆ่าแทนได้ (ไม่ควรใช้กับฝ่ายตรงข้ามที่มี Disable นะครับ) หรือกรณีที่มีเพื่อนร่วมทีมซุ่มอยู่ใกล้ๆ อาจแกล้งเดินล้ำเข้าไปในจุดเสี่ยงหน่อย เพื่อล่อให้อีกฝ่ายบุกเข้ามาฆ่า แล้วรีบถอยหนี ล่อให้อีกฝ่ายตามลึกเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อให้ทางหนีของอีกฝ่ายแคบลง เพื่อนที่ซุ่มอยู่จะได้มีโอกาสสำเร็จในการลอบสังหารง่ายขึ้นด้วย

Credit : hurtz

Carry Hero

Carry Hero คืออะไร ??

ผมเชื่อว่าคงมีผู้เล่น DotA ไม่ว่าจะรุ่นใหม่หรือชั้นเซียนที่ยังไม่เข้าใจคำนี้อย่างแท้จริง
เพราะผมเองเล่น DotA มา 3 ปี ยังเพิ่งจะรู้เลยครับว่ามันหมายถึงอะไร ยังไง แบบไหน ?

Carry Hero หมายถึงอะไร ??

ถ้าแปลความหมายโดยตรงตัวแล้วจะได้ว่า บรรทุก พกพา
ถ้าแปลเต็มตัวก็คือ ฮีโร่พกพา หรือ ฮีโร่บรรทุก
หลายคนอาจจะงงว่า มันหมายถึงอะไร ?

Carry Hero ใน DotA จะหมายถึง Hero ที่พกพาไอเทมเสริมดาเมจ และสามารถทำ DPS (Damage per Second) หรือก็คือ ดาเมจต่อวินาทีได้เป็นจำนวนมาก ฆ่า Hero ฝ่ายตรงข้ามได้ในเวลา 4-5 วินาที โดยอาศัยการทำคอมโบสกิลที่มีอยู่กับการโจมตีปกติ

สรุปก็คือ เป็น Hero ที่มีดาเมจเป็นจุดเด่น เสริมด้วยการติดไอเทมเสริมดาเมจ
และฆ่า Hero ได้ในเวลาัอันสั้น

Carry Hero ต่างจาก Attacker หรือ Damage Dealer ยังไง ??


แม้จะไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน แต่ความต่างของ Carry กับ Attacker หรือ ดาเมจ Dealer คือ ต้องเป็น Hero ที่มีความสามารถในการยืนหยัดต่อสู้ได้พอสมควร อาจเป็น Hero ที่มีความสามารถโดดเด่นในการแท๊งค์ หรือหลบหลีก หรือโจมตีระยะไกล ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็น Hero ที่เกิดมาเพื่อทำดาเมจก็ได้ ดังนั้นจึงอาจพบได้ว่า Hero หลายๆ ตัวที่ไม่ใช่ตัวทำดาเมจโดยกำเนิด ก็สามารถทำหน้าที่เป็น Carry ได้ โดยอาศัยการที่มีความสามารถในการเอาตัวรอดสูงมาชดเชย แล้วติดไอเทมเสริม DPS เข้าไปก็ทำหน้าที่ Carry ได้เช่นกัน


Best Carry Heroes

ในบอร์ดต่างประเทศก็มีการจัดอันดับ Hero ตัว Carry ที่ดีที่สุดเช่นกัน แต่ก็ยากจะหาข้อสรุปว่าตัวไหนดีที่สุด เพราะข้อได้เปรียบเสียเปรียบนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับรูปเกม และเพื่อนร่วมทีมด้วย แต่ก็มีการจัดอันดับท๊อปของ Hero ตัว Carry ทั้งโดยความนิยมและความเก่งได้ดังนี้

สาย STR

 Sven – มี God’s Strength เร่งดาเมจได้มากกว่าสองเท่า

Skeleton King – มีคริติคอลที่รุนแรง ทั้งยังมีสองชีวิตอีกด้วย

Dragon Knight – ร่างมังกรสามารถโจมตีโดนศัตรูเป็นกลุ่มได้ และอึด

สาย AGI

Shadow Fiend – มี Nuke ที่แรงมากในต้นเกม


Spectre – เป็นตัวเสริมการวิ่งที่ดี และเป็นมือสังหารชั้นดี

Terror Blade – ด้วย Metamorphosis + Conjure Image

ไอเทมสำหรับ Carry Hero

ไอเทมสำหรับ Carry Hero หลักๆ แล้วจะเป็นไอเทมที่เพิ่มดาเมจแรงๆ โหดๆ หรือเพิ่มความสามารถในการช่วยฆ่าศัตรูได้เร็วยิ่งขึ้นให้แก่ตัว Hero ทันทีที่พกพา 
ซึ่งผมจะยกตัวอย่างมาให้ดู ซัก 4 ชิ้นละกันนะครับ

 
Monkey King Bar – เสริมดาเมจให้แก่ Hero ได้ทุกสาย ทั้ง Str, Agi หรือ Int เพราะนอกจากจะช่วยให้โจมตีได้แรงขึ้นแล้ว ยังโจมตีได้เร็วขึ้นอีกด้วย

 
Buriza-do Kyanon – เพิ่มดาเมจขึ้นสูงถึง 75 ดาเมจ ที่สำคัญในการโจมตีแต่ละครั้ง มีโอกาสทำดาเมจด้วยการติด Critical Strike อีกด้วย

 
Radiance – พกปุ๊บ ก็ได้ไปเลย 60 ดาเมจ แถมยังติด Burning Effect ที่ทำความเสียหาย 35 ดาเมจ แก่ศัตรูที่อยู่รอบๆ รวมทั้งเพิ่ม Evasion อีก 8% ด้วย

 
The Butterfly – แม้จะดูว่าน่าจะเป็นไอเทมของสาย Agi แต่ Hero สายอื่นๆ ก็ใช้ได้เช่นกัน เพราะสิ่งสำคัญที่ Hero สายอื่นต้องการจาก ไอเทมชิ้นนี้จริงๆ ก็คือ เพิ่ม Attack Speed 30% และ Evasion 30% ต่างหาก

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Pudge : พ่อค้าขายเนื้อแถวเยาวราช

เข้าช่วงเทศกาลตรุษจีน ผมเลยขอยก พี่ Pudge มาคุยกันหน่อย
เมื่อก่อนพี่ Pudge เค้าเป็นพ่อค้าขายเนื้อ แบบเราๆนี่แหละครับ..เอ้ย ไม่ใช่และ ฮ่าๆ
เอาเป็นว่า เรามาเข้าเรื่องของ พี่เค้าเลยดีกว่าครั

Pudge – The Butcher
Profile
Range : 128 (melee)
Move Speed : 285
Primary : Str
Str : 25 + 3.2
Agi : 14 + 1.5
Int : 14 + 1.5
Damage : 52 - 58
HP : 625 | Mana: 182
Armor: 2

History
An undead behemoth seemingly impervious to even the most potent magic, this starving abomination roams the battlefield, continually in search of unwary prey. It is said his victims catch only a glimpse of his monstrous frame as they are dragged them through the shadows, bleeding profusely as a jagged hook etches deeper in their flesh. Wails of agony echo in the distance, only to be drowned out by the Butcher's maniacal laughter as he severs their limp bodies with his great maw. Unspeakable horrors ensue in a deathly silence, a dreadful omen for what is to come.

Pudge สั่นสะเทือนสมรภูมิรบ ท่องเที่ยวไปทั่วสารทิศเพื่อควานหาร่างเนื้อที่มันสามารถจะดูดกลืนเข้ามารวม เอาไว้กับร่างกายตนเองได้ แสดงพลังแห่งความตายด้วยพละกำลังอันกล้าแกร่ง เนิ่นนานหลายปีผ่านไป ผิวหนังของมันได้ถูกกาลเวลาเปลี่ยนให้มีสภาพที่สามารถต้านพลังเวทย์มนตร์ได้ [ Flesh Heap ] ร่างกายที่เน่าเหม็นของมันส่งกลิ่นร้ายกาจมากพอที่จะคร่าชีวิตของนักรบหาญ กล้าที่เผชิญหน้ากับมัน [ Rot ] และด้วยตะขออันทรงพลัง [ Meat Hook ] มันสามารถลากเป้าหมายเข้ามาสู่อ้อมกอด แล้วจับยัดลงกระเพาะของมันได้ในชั่วอึดใจ [ Dismember ] นักแล่เนื้อตนนี้เป็นปีศาจหายนะที่ศัตรูทุกชีวิตเกรงกลัว และพันธมิตรทุกชีวิตชอบใจ


Skill

Meat Hook [คีย์ลัด T]

      ปาโซ่เป็นเส้นตรงไป ดึงยูนิต 1 ตัวที่อยู่ในเส้นทางและใกล้ที่สุดเข้ามาหาตัวเรา
ถ้าเป็นยูนิตศัตรูสร้างความเสียหายด้วย
Cooldown 14 วินาที

Level 1 - 100 Damage ระยะ 400
Level 2 - 200 Damage ระยะ 600
Level 3 - 300 Damage ระยะ 800
Level 4 - 400 Damage ระยะ 1,000

Rot [คีย์ลัด R]

ปล่อยพิษออกมาสร้างความเสียหาย รอบตัวและสร้างความเสียหายแก่ตัวเอง ศัตรูที่โดนพิษจะเดินช้าลง 20% ไม่เสีย MP ในการใช้สกิล

Level 1 - 25 Damage ต่อวินาที
Level 2 - 50 Damage ต่อวินาที
Level 3 - 75 Damage ต่อวินาที
Level 4 - 100 Damage ต่อวินาที

Flesh Heap

เพิ่มพลังป้องกันเวทมนตร์และเพิ่มค่า Strength ให้ทุกครั้งที่ฆ่าศัตรูได้

Level 1 - ลดความเสียหาย 4% เพิ่ม STR 0.03 เมื่อฆ่า Creep/0.3 เมื่อฆ่า Hero
Level 2 - ลดความเสียหาย 8% เพิ่ม STR 0.06 เมื่อฆ่า Creep/0.6 เมื่อฆ่า Hero
Level 3 - ลดความเสียหาย 12% เพิ่ม STR 0.09 เมื่อฆ่า Creep/0.9 เมื่อฆ่า Hero
Levekl 4 - ลดความเสียหาย 16% เพิ่ม STR 0.12 เมื่อฆ่า Creep/1.2 เมื่อฆ่า Hero

Dismember [คีย์ลัด D]

      กัดคู่ต่อสู้ทำให้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวและตอบโต้เป็นระยะเวลาหนึ่ง และสร้างความเสียหายตลอดเวลากัดอยู่นาน 3 วินาที
Cooldown 30 วินาที

Level 1 - 75 Damage ต่อวินาที MP 100
Level 2 - 125 Damage ต่อวินาที MP 130
Level 3 - 175 Damage ต่อวินาที MP 170

แนวทางการอัพสกิล

1.Meat Hook
2.Rot
3.Meat Hook
4.Rot
5.Meat Hook
6.Dismember
7.Meat Hook
8.Rot
9.Rot
10.Status
11.Dismember
12.Status
13.Status
14.Status
15.Status
16.Dismember
17.Status
18.Status
19.Status
20.Status
21.Status
22.Flesh Heap
23.Flesh Heap
24.Flesh Heap
25.Flesh Heap

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่การอัพสกิลเบื้องต้นเท่านั้นนะครับ
เพราะถ้าเจอฮีโร่ Nuker เยอะๆ อาจจะรีบอัพ Fresh Heap ให้เต็มก่อนก็ได้ครับ

Item

Empty Bottle : ควรออกมาเป็นอย่างแรก เพื่อเอาไว้เติม
                                    HP/MANA ตอนต้นเกม

Boots of Travel : ตอนแรกออก Boot of Speed มาก่อน
                                       แล้วค่อยอัพเกรดที่หลังก็ได้

Vanguard : ควรออกตั้งแต่แรกๆ เพื่อความอึุดของตัวเรา ช่วงต้นเกม

Hood of Defiance : ออกไว้เพื่อเอา Regen HP และ กันเวท 35 % 
                                          จะได้เสียเลือดน้อยลงเวลาใช้สกิล Rot
                                      
Heart of Tarrasque : เพิ่มความอึดและพลังโจมตี ช่วงท้ายเกม
                                            อาจจะออกสัก 2 อันก็ได้


________________________________________________

กลอน Pudge ฮาๆครับ ^^

   อันนามเดิมพี่ Pudge ชื่อ Butcher
ออกล่าเหยื่อเห็นเนื้อแล้วลากหาย
ปล่อยทั้ง Rot กัดทั้งหัวจนปางตาย
สับสุดท้ายปลิดชีพขึ้นเขียงเลย
   ล่าไปมา STR เพิ่มกระฉูด
ล่าไม่หยุดฆ่าเรื่อยๆหน้าตาเฉย
Hook ไม่พอปล่อย Rot กัดหัวเอย
เจ็บจังเลย MoonRider Out ไปคน
   AH! Flesh Heap ดังลั่นจากในป่า
แสดงว่าพี่ Pudge ได้เป้าหมาย
ทุกๆคนวิ่งมาเหนื่อยแทบตาย
แต่สุดท้าย Zeus Last เอาไปกิน
   เล่นไปเรื่อยพี่ Pudge เริ่มจะเกิด
ออกทั้ง Heart กันเวท ใครสู้ไหว
อีกทีมยอม ให้พี่ Pudge รีบ N ไว
Pudge จัดให้ เก็บ Rampage! แล้ว GG

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Item เจ๋งๆ ช่วงต้นเกม

เรื่องของ Item Level 1 ยอด Hit

            

      สำหรับเพื่อนๆ ที่เล่น DotA ก็คงจะทราบโดยหลักๆแล้ว Item เลเวล 1 นั้นมีไอเทมไม่กี่อย่างหรอกที่คนมักจะนิยมออกกันสำหรับวันนี้ผมจะเพ่งเล็ง กับไอเทมบวก Status เป็นพิเศษโดย Item ทั้ง 3 ชนิดนี้นั้นมีความพิเศษแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือเพิ่มค่า Str 6, Agi 6หรือ Int 6 ข้อดีข้อเสียเห็นกันอยู่

      Bracer นั้นเอาเข้าจริงสาย Str โดยมากก็ไม่ค่อยจะได้ใส่ซักเท่าไหร่หรอกครับโดยมากแล้วจะเป็นสาย Agi หรือสาย Int ที่ต้องการเพิ่ม Max HP มากกว่า หรือพวกที่ต้องเข้าไปลุยป้อมตอนเลเวลแรกๆ อย่าง Lycantrope (ตัวนี้เป็นหมาแล้ววิ่งกัดเข้าไปดิเหอ เหอ) หรือ Vengeful Spirit ที่ต้องใช้สกิล Nether Swap เพื่อสลับตัวกับ Hero ฝั่งตรงข้าม โดยบางครั้งอาจจะต้องโดนป้องยิงบ้างเป็นครั้งคราวเป็นต้น ดังนั้น Bracer จึงเป็นเสมือนอุปกรณ์เพิ่มเลือดชั้นดีแถมยังได้ Mana มาอีกนิดหน่อย กับเกราะอีกเล็กน้อยอีกด้วยครับ

      Wraith Band ไอเทมลูกเมียน้อย เพิ่ม Aspd และ เกราะ Mana อีกนิดหน่อย HP อีกนิดนึง โดยรวมแล้วไม่เหมาะกับสายอื่นเลยนอกจากสาย Agi เท่านั้น ถ้าไม่ใช่สาย Agi ก็อย่างเสี่ยงเสียเงินเสียเวลาไปซื้อเลยครับไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่

      Null Talisman ชิ้นนี้ซิเทพของจริง ใช้ได้ทุกสายไม่ว่าจะเป็น Str, Agi หรือ Int ช่วยเพิ่มค่า Mana ให้ระดับนึง โดยมากแล้วมักจะเป็น Hero ที่ต้องการ Mana ในการใช้สกิลเยอะๆตัวอย่างง่ายๆ Sven เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดท่า Stun ที่กิน Mana มหาศาลและในช่วงต้นที่มี Mana ไม่เยอะ Null Talisman จึงเป็นทางออกให้หลายๆคนใช้เพี่อให้สามารถยิง Stun ได้ 2-3 รอบในช่วงเลเวลแรกๆครับ


Before


After

      สำหรับ ไอเทมบวก Status เราควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตัว Hero ที่เราเล่นอยู่เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการเล่นให้ได้มากที่สุดในช่วงแรก ครับ

ออกของบวก Status เยอะๆดีมั้ย

      แล้ว แต่จะคิดครับ แต่โดยมากแล้วการออกของแบบนั้นมักเป็นการเร่งให้เกมจบเร็วขึ้นเพราะการออก ของบวก Status เยอะๆทำให้ความได้เปรียบในช่วงต้นสูงมากแต่จะเสียเปรียบมากหากปิดเกมไม่ได้ เพราะยังไงซะของเพิ่ม Status เลเวล 1 จะไปสู้อะไรกับของดีๆในเลเวลที่สูงกว่าได้ ดังนั้นจะออกก็คิดให้ดีเสียก่อนว่าจะออกกี่ชิ้นถึงจะเหมาะครับ ^_^


ออก 2 อย่างผสมกันก็ไม่ผิด

-------------------------------------------------------------


Boots Of Travel กับ Power Treads ขึ้นอยู่กันลักษณะการใช้งาน

      

      รองเท้าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ ชัดโดยสำหรับ Boots Of Travel นั้นเมื่อวัดจาก Hero ตัวเดียวกันนั้นผู้ที่ใส่ Boots Of Travel จะวิ่งได้เร็วกว่า Power Treads และยังสามารถ Teleport ไปยังที่ๆ มี Creep หรือสิ่งก่อสร้างของฝั่งเราอยู่ได้อีกด้วย

      ในแง่ของการใช้งาน นั้น Boots Of Travel มักจะมีประโยชน์กับ Hero ที่ใช้สกิลโจมตีมากกว่าการโจมตีแบบธรรมดาเพราะ Boots Of Travel นั้นไม่เพิ่ม ASPD ให้นั่นเองดังนั้น Boots Of Travel จึงเหมาะกับ Hero ที่เป็นสาย Int เสียส่วนใหญ่ตัวอย่างง่ายๆ ก็ Lich เป็นต้น(Boots Of Travel + Speed 90 ลบจุดด้อยว่าด้วย Lich วิ่งช้าได้อย่างดี)

      จุด เสียของ Boots Of Travel นั้นก็มีอยู่นั่นหมายถึงราคาที่แสนแพงเพื่อแลกกับความสามารถที่ยอดเยี่ยมของ มันดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นหลายๆ คนเลือกออกเพียง Boots Of Speed เพียงอย่างเดียวครับ

      ส่วน Power Treads นั้นเหมาะมากสำหรับทุกตัวที่เน้นการรบที่ใช้การโจมตีเป็นหลักตัวอย่างเช่น Sven หรือ Anti Mage เป็นต้นบวกทั้ง ASPD แถมยัง บวก Speed 60 อีกด้วยจึงเป็นไอเทมที่เราเห็นได้ในทุกๆการเล่นครับ

      รองเท้า ทั้งสองชนิดนั้นให้แบ่งกันง่ายๆ ก็จะเป็นว่า Boots Of Travel นั้นจะเหมาะกับ Hero สาย Int เสียส่วนใหญ่ที่วิ่งช้า และ Hero บางตัวที่ไม่มี Stun แล้วต้องวิ่งไล่เพื่อ Kill (กรณีหลังนี้แล้วแต่จะคิดสามารถเลือกใช้ได้ทั้ง Boot Of Travel และ Power Treads)

      ส่วน Power Treads นั้นโดยทั่วไปจะเหมาะกับสาย Str และ Agi มากกว่าเพราะความเร็วในการเคลื่อนที่สูงมากกว่าสายอื่นๆอยู่แล้วจึงไม่ใช่ เรื่องยากอะไรที่จะวิ่งหนี หรือวิ่งเข้าปะทะเป้าหมายครับ

Hand Of Midas ไอเทมนี้ไร้ประโยชน์จริงหรือ


      ถือว่าเป็นไอเทมยอดเห่ย เลยก็ว่าได้โดยมากแล้วผู้ที่ออกไอเทมนี้มันจะเป็นโดนกดจนไม่มีเงินทองไปซื้อ ของดีๆได้ แต่เอาเข้าจริงแล้วนั้นไอเทมชิ้นนี้นั้นถือได้ว่ามีประโยชน์สูงมากเมื่อเรา ต้องสู้กับ Chen ครับถือได้ว่าเป็นไอเทมแก้ทางกันเลยก็ว่าได้ด้วยความสามารถกิน Creep แล้วได้ตังค์นั้นเราสามารถนำมาใช้กับ Chen ที่ยึด Creep ได้ (แถมแต่ละตัวที่มันยึดมานั้นเวลากินนี่ได้เงินหลายอยู่เหมือนกันนะครับ ^_^) ประโยชน์ของมันจริงๆก็มีแค่เอาไว้กด Chen หละครับ โดยมากแล้วการเล่นปรกติไม่แนะนำให้ใช้ในทุกกรณีนะ ^_^

Perseverance ขี้เกียจกลับจุดเกิด


      สำหรับไอเทมชิ้นนี้นั้นจะเรียกได้ว่าถ้าคนเล่น ดีๆ แล้วหละก็แทบไม่ต้องกลับไปเติมเลือดเติม Mana กันเลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันเพิ่มอัตราการฟื้นคืนของเลือดและ Mana ได้เยอะมากแถมยังบวก Damage อีก 7 อีกด้วย ยังไม่หมดเท่านั้น ไอเทมชิ้นนี้ยังเป็นทางผ่านไปยังไอเทมยอดฮิตของสาย Malee อย่าง Battle Fury และสุดยอดไอเทมป้องกันตัวอย่าง Linken’s Sphere อีกด้วยครับ

      สำหรับ คนที่ไม่คิดจะกลับบ้านบ่อยๆและต้องการจะทำไอเทม 2 ชิ้นที่กล่าวมาไอเทมนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่จะซื้อเก็บไว้ใช้ ในช่วงแรกครับ หากไม่คิดจะซื้อไอเทมทั้งสองชิ้นนี้ก็สามารถซื้อได้แต่อาจจะใช้งานได้ไม่ เต็มที่เท่ากับพวกที่จะเอามาผสมของครับ ^_^


แค่มีไอ้นี่ก็แทบจะ ไม่ต้องเดินกลับไปบ่อน้ำแล้ว

      แต่ไอเทมชิ้นนี้ก็ใช่ว่า จะไม่มีข้อเสียนะครับ ด้วยราคาประมาณ 1,800 ในช่วงแรกที่เสียไปถ้าไม่เล่นดีจริงๆ ก็กลายเป็นไอเทมที่หาประโยชน์ไม่ค่อยได้ครับ เพราะถ้าเทียบในราคาประมาณนี้จริงๆเราสามารถออกไอเทมเพิ่มความรุนแรงหรือไอ เทมจำพวกบวก Status ได้หลายชิ้นอยู่เหมือนกันดังนั้นก็คิดให้ดีว่าเราควรจะเลือกใช้ไอเทมชนิดนี้ หรือเปล่าครับ

Credit : JKRipper

LAST SHOT & DENY

LAST SHOT
การ Last Shot นั้น เป็นเรื่องเบสิกๆ ที่ไม่ควรละเลย
ซึ่งมีผลต่อ Level และ EXP ของเรามาก
เราควรจะ Last Shot ครีปให้ได้ทุกครั้ง
แต่เราไม่ควรพยายาม Last Shot ฮีโร่ที่เพื่อนเราไล่ฆ่าอยู่
เพราะมันเป็นการ Steal Kill ซึ่งอาจโดนเพื่อนในทีมว่าเอาได้ เพราะเราไปแย่งเค้าฆ่า
ซึ่งทำให้เค้าอดเงินจากการฆ่า ซึ่งเค้าอุส่าห์ไล่แทบตาย...แต่ถูกเราแย่งไป = =;;

...พูดซะยาว ลืมบอกไปว่า การ Last Shot คืออะไร = =;;
การ Last Shot คือการที่เรา ไปโจมตี ครั้งสุดท้าย ก่อนที่ Unit นั้นจะตาย
ซึ่งคนที่ Last Shot นั้นจะได้เงิน ส่วนเงินที่ได้รับจะแตกต่างกันไป ตามชนิดของ Unit

DENY
การ Deny ก็จะคล้ายๆกับการ Last Shot
แต่จะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายใส่ Unit ฝ่ายเดียวกัน
ซึ่งจะทำให้ อีกฝ่ายอดเงิน ที่ได้จากการ Last Shot และ ได้ EXP เพียงครึ่งเดียว
ซึ่งเวลาที่เรา Deny สำเร็จนั้น จะมีเครื่องหมาย ! เล็กๆ  เด้งขึ้นมาจาก Unit นั้นๆ

การ Deny ฮีโร่ฝ่ายเดียวกัน ซึ่งจะคล้ายๆกับการ Deny Unit อื่นๆ
แต่เราจะ Deny ฮีโร่ฝ่ายเรา ได้ต่อเมื่อ ฮีโร่ฝ่ายเรานั้นติดสถานะเลือดลดเรื่อยๆ
เช่น Doom หรือ Poison Nova

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Tews.DotAlism




ไม่รู้เวอร์ชั่นไหนเหมือนกันครับ แต่เล่นโหดมาก...
เห็นใช้เสียงพากย์เหมือนตอนที่เป็นเวอร์ชั่น 5 อยู่อะครับ

ใครไม่รู้ว่า เวอร์ชั่น 5 เป็นมายังไง ก็เข้าไปดูไำด้ครับ ประวัติ DotA

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

One For All

One For All คือการเล่นฮีโร่ที่เ้น้นช่วยเหลือทีมเป็นหลัก 
คอยซื้อ Ward มาปักให้กับทีม คอยวิ่งช่วยเพื่อนในทีมฆ่า
ฮีโร่ ที่ใช้ในการเล่นรูปแบบนี้ จะเป็นพวกที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง
และสามารถวิ่งฆ่าได้ตั้งแต่ต้นเกม เช่น Silkwood , Rylai , Venomancer
ฮีโร่พวกนี้ ไม่จำเป็นต้องออกไอเทมมากมายนัก
เพราะ ต้องคอยซื้อ Ward มาปักให้กับทีม
จึงออกแค่ ขาไม้ กับเบรเซอร์ 2 อัน ก็เพียงพอที่จะอยู่ได้ัทั้งเกมแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Tower

Tower หรือที่กันย่อๆใน DotA ว่า TW คือ ป้อม
Tower จะประจำอยู่ 3 เลน เลนละ 3 Tower
และมี Tower บนฐาน อีก 2 Tower
Tower มีการโจมตีที่รุนแรง และ HP ค่อนข้างเยอะ____________________________________________________
ลักษณะ การโจมตี ของ Tower
1. จะโจมตี Unit ที่โจมตี Hero
2. จะโจมตี Unit ที่โจมตี Tower
3. จะโจมตี Unit ที่ HP น้อยทีุ่สุดก่อน
4. จะโจมตี Unit ที่ เคลื่อนที่ไม่ได้ เป็นลำดับสุดท้าย เช่น Ward ต่างๆ
หมายเหตุ : การโจมตีใส่ฮีโร่อีกฝ่ายของผู้เล่น Tower จะโจมตีต่อเมื่อโจมตีธรรมดา
             ถ้าเป็นการโจมตีด้วยสกิล Tower จะไม่สนใจ และโจมตีตาม ข้อ 2 ต่อไป

เพลง DotA - BassHunter